☑︎ รีวิวนี้อัปเดตล่าสุดเมื่อ กรกฎาคม 2025
อ๊ะฮอย! ถ้าคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ ก็แปลว่าคุณก็น่าจะสงสัยเหมือนกันว่า:
Surfshark เป็นแค่ VPN หน้าตาดีในทะเลดิจิทัล หรือเป็นนักล่าตัวจริง ที่ทั้งเร็ว ปลอดภัย และคุ้มค่า?
เราทดสอบ Surfshark มาแล้วกว่า 6 ปีเต็ม 🤓 และนี่คือรีวิวฉบับอัปเดตล่าสุด ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้แบบมั่นใจที่สุด – ดำดิ่งไปพร้อมกันเลย!
เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย! รีวิวนี้จะตอบคำถามสำคัญ ๆ ที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับ Surfshark แบบไม่มีน้ำ ไม่มีศัพท์เทคนิคให้ปวดหัว:
- Surfshark ต่างจาก VPN อื่นยังไง?
- ข้อมูลของคุณปลอดภัยแค่ไหน ถ้าใช้ Surfshark?
- เซิร์ฟเวอร์เร็วและเสถียรจริงไหม?
- แพ็กเกจไหน ที่เหมาะกับคุณที่สุด?
และพูดถึงแพ็กเกจ – ตอนท้ายของรีวิว เราจะมีวิธีปลดล็อคดีลที่ดีที่สุดของ Surfshark ให้ด้วยนะ
เริ่มต้นกันด้วยฟีเจอร์เด่น ๆ กันก่อนเลย:
ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ความเร็วและการปลดบล็อก
ฝ่ายสนับสนุนของ Surfshark
ราคาและการคืนเงิน
โบนัส: คูปอง Surfshark
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ข้อดีข้อเสียของ Surfshark
บทสรุป: ควรใช้ Surfshark ไหม?
รีวิวผู้ใช้งาน
Surfshark ต่างจาก VPN เจ้าอื่นยังไง?
ต้องยอมรับกันตรง ๆ – VPN ส่วนใหญ่ใน 2025 ก็ดูดี มีให้จ่ายด้วยคริปโต และพูดถึงความปลอดภัยแบบสุดลิ่มทิ่มประตู
แต่ Surfshark ไปได้ ไกลกว่านั้น – แถมยังทำได้โดยที่ ไม่ต้องขึ้นราคาจนงบบานปลายด้วยซ้ำ 🤑
ลองดูราคาเองก็ได้
นี่คือจุดที่ทำให้ Surfshark แตกต่างจาก VPN เจ้าอื่นอย่างแท้จริง:
- ราคาถูกมาก: แพ็กเกจ 2 ปีของ Surfshark ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับ VPN ชั้นนำ แถมมักจะถูกกว่าคู่แข่งที่ขายแพ็กเกจ 3 ปีด้วยนะ! และใช่ – เรามีทริกพิเศษ ที่ช่วยให้ได้เดือนฟรีเพิ่มอีก
- ใช้งานได้ไม่จำกัดอุปกรณ์: ต่างจาก VPN เจ้าอื่นที่มักจำกัดไว้ 5 หรือ 7 เครื่อง Surfshark ให้คุณเชื่อมต่อกี่อุปกรณ์ก็ได้ พร้อมกันแบบไม่ต้องคิดมาก
-
Surfshark Nexus
ใหม่ในปี 2025
สถาปัตยกรรมใหม่ที่เปลี่ยนการเชื่อมต่อ VPN จากแบบเดิม (ผ่านเซิร์ฟเวอร์เดียว) มาเป็นผ่าน เครือข่ายทั้งหมด ของ Surfshark – พร้อมหมุน IP อัตโนมัติแบบเรียลไทม์
ผลลัพธ์: ความเสถียรดีขึ้น, ความเร็วดีขึ้น, ความเป็นส่วนตัวยกระดับ -
Surfshark Everlink
ใหม่ในปี 2025
ฟีเจอร์ที่ช่วยให้เว็บไซต์สำคัญ ๆ อย่างธนาคาร กระเป๋าคริปโต หรือ Google Docs ยังคงเชื่อมต่อได้อยู่ – แม้ VPN จะหลุดหรือเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์
เรียกง่าย ๆ ว่าเป็น “อุโมงค์ซ้อนอุโมงค์” สำหรับเว็บไซต์สำคัญของคุณ - Warrant Canary: Surfshark เป็นหนึ่งใน VPN ไม่กี่เจ้าในโลก ที่มีหน้าพิเศษประกาศชัดว่า ยังไม่เคยได้รับคำสั่งลับจากรัฐบาลให้เปิดเผยข้อมูลใด ๆ
จุดสุดท้ายนี่แหละ น่าสนใจจนต้องขยายความหน่อย:
…warrant canary 🐦 คือกลยุทธ์ที่เกิดขึ้นเพราะในบางประเทศ (โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา) บริษัท ไม่สามารถบอกตรง ๆ ได้ หากได้รับคำสั่งลับจากทางการให้เปิดเผยข้อมูล
วิธีแก้คือ: บริษัทฉลาด ๆ อย่าง Surfshark ก็ประกาศไว้เลยว่า “เรายังไม่เคยได้รับคำสั่งใด ๆ” – ซึ่งไม่ผิดกฎหมาย
พูดอีกแบบ: ถ้าคุณเห็นเลขศูนย์อยู่บน หน้า Warrant Canary ของ Surfshark
แปลว่า – ยังไม่มีรัฐบาลไหนเข้ามาแตะระบบของพวกเขาเลย:
ไหน ๆ ก็พูดเรื่องความโปร่งใสแล้ว
ไปดูต่อเลยว่า Surfshark ปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ดีแค่ไหน
ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
Surfshark เก็บความลับเก่งแค่ไหน?
ใน 2025 ถ้า VPN ไหนยังโฆษณาว่า “เข้ารหัสระดับทหาร” ก็ไม่ต่างจากเรือที่คุยว่า “มีท้องเรือ” –
ทุก VPN ที่จริงจัง เดี๋ยวนี้ก็ใช้ AES-256-GCM กันหมดแล้ว
…โปรโตคอล WireGuard, OpenVPN, การเชื่อมต่อแบบ MultiHop และฟีเจอร์ Kill Switch ก็กลายเป็น มาตรฐาน ไปแล้วในวงการนี้
แต่ Surfshark ยังมีอะไรที่เสริมเกราะให้แน่นกว่าเดิมอีก:
- Camouflage Mode ปลอมแพ็กเก็ตข้อมูล ทำให้แม้แต่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ก็ไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้ VPN – เหมาะมากสำหรับการเลี่ยงการบล็อกจากบริษัท, โรงเรียน หรือประเทศที่มีการเซ็นเซอร์ เช่น 🇨🇳 จีน, 🇹🇷 ตุรกี, 🇷🇺 รัสเซีย และ 🇦🇪 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- Nexus Dynamic IP
2025
สลับ IP อัตโนมัติระหว่างใช้งาน โดยไม่ตัดการเชื่อมต่อ – ดีเยี่ยมสำหรับความเป็นส่วนตัวขั้นสุดและการเลี่ยงฟิลเตอร์ IP
⚠️ แต่ไม่เหมาะกับบริการที่ต้องการ IP คงที่ เช่น แบงก์ออนไลน์ - 2FA และ Passkey แบบไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่าน
2025
เพิ่มความปลอดภัยให้บัญชีคุณ – แค่แตะยืนยันก็เข้าได้ ไม่ต้องห่วงหากอีเมลโดนแฮก
จากประสบการณ์ใช้ VPN มานานกว่า 15 ปี – บอกได้เลยว่า:
สรุป: ด้านความปลอดภัย Surfshark ไม่ได้คิดใหม่ทำใหม่ แต่ทำได้ครบหมดทุกกล่อง
เหมือนป้อมเหล็กดิจิทัลที่พร้อมลุยทุกพายุไซเบอร์
พูดถึงระบบป้องกันไปแล้ว
ต่อไปเรามาดูกันว่า Surfshark มีเข็มทิศความเป็นส่วนตัวดีแค่ไหน:
แนวทางด้านความเป็นส่วนตัวของ Surfshark สร้างจาก 3 เสาหลัก:
- นโยบาย No-Logs: ไม่เก็บเวลาการเชื่อมต่อ, ไม่บันทึก IP, ไม่บันทึกเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมเลย (ดูจากส่วนที่ 1 ของนโยบายความเป็นส่วนตัว)
- เซิร์ฟเวอร์ RAM-only: ทุกเครื่องจะใช้ image ที่รีเซ็ตทุกครั้งตอนเริ่มต้น – ไม่มีการเก็บข้อมูลใด ๆ ถาวร
ข้อมูลทั้งหมดจะหายทันทีเมื่อรีบูต (ระบบนี้เปิดใช้ทุกเซิร์ฟเวอร์ตั้งแต่ปี 2023) - การตรวจสอบอิสระ: ในปี 2025 บริษัท Deloitte (หนึ่งใน Big-4 ระดับโลก) ตรวจสอบและยืนยันว่า Surfshark ไม่เก็บข้อมูลลูกค้าจริง
ขณะเดียวกันบริษัทความปลอดภัยไซเบอร์ 🇩🇪 Cure53 ก็ตรวจสอบและอนุมัติสถาปัตยกรรม Nexus ในปลายปี 2024
Surfshark ย้ายสำนักงานจาก British Virgin Islands มาตั้งใน 🇳🇱 เนเธอร์แลนด์ ตั้งแต่ปี 2021
ซึ่งหลายคนสงสัยว่า…ทำไมถึงเลือกประเทศในกลุ่ม 14-Eyes ล่ะ?
จริง ๆ แล้ว เหตุผลนั้นมี 2 ข้อหลัก ๆ:
- หนึ่ง: เนเธอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาแล้วไม่กี่แห่ง ที่มีกฎหมายปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลแข็งแกร่ง
และ ไม่บังคับให้ผู้ให้บริการเก็บ log – Surfshark จึงยังคงนโยบาย No-Logs ได้แบบถูกกฎหมาย
แถมถ้ารัฐบาลจะมาขอข้อมูล…ก็ไม่มีอะไรให้ เพราะไม่ได้เก็บไว้ตั้งแต่แรก - สอง: อยู่ในเขตสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งอยู่ภายใต้ กฎหมาย GDPR
กฎปกป้องข้อมูลที่เข้มงวดที่สุดในโลก
รวมถึงสิทธิ “ให้ลืมฉันได้” ซึ่งบังคับใช้กับลูกค้าทั่วโลกทันทีที่บริษัทจดทะเบียนอยู่ใน EU
พูดอีกแบบก็คือ:
Surfshark ใช้ข้อได้เปรียบของเนเธอร์แลนด์: ได้ทั้งชื่อเสียงระดับสากล
และกฎหมายความเป็นส่วนตัวที่เข้มข้นตามมาตรฐาน EU
นอกจากนี้ Surfshark ยังมีเครื่องมือเสริมด้านความเป็นส่วนตัวที่เกินมาตรฐานไปอีกขั้น:
- ทุกแพ็กเกจมาพร้อม 🥸 ระบบสร้างตัวตนปลอม สำหรับสร้างอีเมลสำรองและข้อมูลส่วนตัวสุ่มไว้ใช้กับเว็บที่คุณไม่ไว้ใจ
- แพ็กเกจระดับสูงจะมีระบบ 🚨 แจ้งเตือนข้อมูลรั่ว ที่ ติดตามบนอินเทอร์เน็ต เพื่อดูว่าข้อมูลบัตร, รหัส, หรือข้อมูลระบุตัวตนของคุณเคยรั่วไหลหรือไม่
- แพ็กเกจ
One+
ยังแถมบริการ 🕵️♀️ Incogni – เครื่องมือลบข้อมูลส่วนตัวของคุณออกจากฐานข้อมูลบริษัทต่าง ๆ และเว็บไซต์ค้นหาคน
ช่วยลดสายขายตรงและอีเมลแปลก ๆ ได้เยอะเลย
สรุป: ถ้า Surfshark มีสโลแกนด้านความเป็นส่วนตัว คงเป็น
“ข้อมูลที่ปลอดภัยที่สุด คือข้อมูลที่ไม่มีอยู่เลย”
และพวกเขาก็ทำตามแนวคิดนี้แบบเป๊ะ ๆ
ดังนั้น ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: ✅ ผ่านฉลุย
…แต่แม้จะเป็นเรือรบที่กันกระสุนได้ดีแค่ไหน – ถ้าแล่นช้าเหมือนเต่าทะเลหรือเบรคไม่ได้เวลาเจอภูเขาน้ำแข็งดิจิทัล ก็อาจไปไม่ถึงไหนเหมือนกัน
มาดูกันว่าในโลกจริง Surfshark ใช้งานได้เร็วแค่ไหน!
ประสิทธิภาพการใช้งาน: ความเร็วและการปลดบล็อก
ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 เราได้ทดสอบ Surfshark VPN อย่างสม่ำเสมอในด้านสำคัญ ๆ เช่น:
📺 การเข้าถึงบริการสตรีม
🥷 การเลี่ยงการเซ็นเซอร์
ต่อไปนี้คือผลสรุปจากการใช้งานจริง ทั้งการดูหนัง ดาวน์โหลด และเล่นเกม:
คุณภาพการเชื่อมต่อและความเร็ว
ก่อนอื่นมาดูจำนวนเซิร์ฟเวอร์กันก่อน: Surfshark มี มากกว่า 3,200 เซิร์ฟเวอร์ ครอบคลุม 100+ ตำแหน่งทั่วโลก
โดยมี 45 ตำแหน่งที่เป็น ตำแหน่งเสมือน (Virtual) เช่น 🇨🇷 คอสตาริกา, 🇬🇭 กานา หรือ 🇬🇱 กรีนแลนด์ – ซึ่งหมายถึง IP จะตรงกับประเทศนั้น
แต่เซิร์ฟเวอร์จริงอาจอยู่ในประเทศใกล้เคียงที่มีโครงสร้างพื้นฐานครบกว่า
แบบนี้ช่วยให้คุณได้ความเร็วดีสม่ำเสมอ
…แต่อาจมีผลกับบางบริการที่ต้องตรวจตำแหน่งจริง เช่นธนาคารหรือสตรีมมิ่ง
ตั้งแต่ปลายปี 2024 Surfshark ได้อัปเกรดทุกเซิร์ฟเวอร์เป็นพอร์ตความเร็วสูง 10 Gbps
เราจึงจัดหนักทดสอบด้วย มากกว่า 500 ครั้ง ผ่าน SpeedTest และ Fast.com
ทั้งผ่านโน้ตบุ๊กแบบสาย / ไวไฟ และมือถือ 5G / 4G

เราทดสอบจริงหลายร้อยครั้ง ตลอดวัน ตลอดคืน
(ใช่ เราใช้ API ทดสอบ ไม่ได้กดเองทุกครั้ง 😉)
สรุปผลสำคัญ:
พารามิเตอร์ | ค่าเฉลี่ย Surfshark | ค่าเฉลี่ย VPN ทั่วไป | ทำไมถึงสำคัญ? |
---|---|---|---|
ความเร็วดาวน์โหลด (เฉลี่ย) | 1200 Mb/s | 940 Mb/s | โหลดไว ดู Netflix ไม่กระตุก |
ความเร็วอัปโหลด (เฉลี่ย) | 750 Mb/s | 720 Mb/s | ส่งไฟล์, วิดีโอคอล, แชร์ P2P |
ลดความเร็วเมื่อเปิด VPN (ใกล้สุด) | 12% | 17% | ลดน้อยลง = ใช้งานลื่นขึ้น |
ลดความเร็วเมื่อเปิด VPN (ไกลสุด) | 24% | 29% | สำคัญเมื่อเชื่อมต่อข้ามทวีป |
Latency เฉลี่ย (ใกล้สุด) | 90ms | 120ms | ยิ่งต่ำยิ่งตอบสนองเร็ว |
แปลว่า:
Surfshark เร็วพอจนแทบไม่รู้สึกว่าเปิด VPN อยู่เลย – ดูหนัง อัปโหลด เล่นเกม ไม่สะดุด
เว้นแต่ว่าคุณใช้เน็ตแบบ multi-gigabit (ซึ่งยังหาได้ยาก) Surfshark ก็ไม่เป็นคอขวดแน่นอน
💡 ทิปเพิ่มสปีด VPN:
- ใช้ WireGuard เป็นค่าเริ่มต้น: เร็วกว่า OpenVPN ~40% และเสถียรกว่า ยกเว้นถ้าเครือข่ายคุณบล็อก WireGuard
เลือกโปรโตคอลได้ในเมนู Settings → VPN Settings → Protocol: -
ทดสอบ ping ในแอป: กดไอคอนรูปเข็มทิศข้างช่องค้นหาเพื่อดู ping (ค่ายิ่งต่ำยิ่งดี) แล้วกด ⭐ เพื่อเซฟเซิร์ฟเวอร์โปรด:
-
หาเซิร์ฟเวอร์โหลดบิท: พิมพ์ “p2p” ในช่องค้นหา จะขึ้นเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสำหรับโหลดทอร์เรนต์โดยเฉพาะ:
- ปิดโหมดประหยัดแบต: มือถือจะลดความเร็วเบื้องหลัง ทำให้ VPN ช้าลงครึ่งนึงโดยไม่รู้ตัว
- อย่าใช้ MultiHop ถ้าไม่จำเป็น: แม้ปลอดภัยขึ้น แต่ก็ลดสปีด 15–30% ใช้เฉพาะเวลาเข้าจาก Wi-Fi สาธารณะหรือเว็บอ่อนไหว
ต่อไปมาดูกันว่า Surfshark มีพลังปลดบล็อกดีแค่ไหน:
ดูสตรีมมิ่ง + เลี่ยงการบล็อกตามประเทศ
เราได้ทดสอบ Surfshark กับบริการที่ขึ้นชื่อเรื่องการบล็อก VPN อย่าง Netflix และ BBC iPlayer
จากการทดสอบ 150+ ครั้งใน กรกฎาคม 2025 สรุปได้ว่า:
- Netflix ✅ สหรัฐฯ อังกฤษ ยุโรป ญี่ปุ่น แคนาดา – ใช้ได้หมด ไม่มี proxy error
- Disney+, HBO Max, Prime Video ✅ ดูได้ลื่น ๆ ทุกสัปดาห์
- BBC iPlayer และบริการเฉพาะประเทศ ✅ ต้องเลือกเซิร์ฟเวอร์ในประเทศนั้น เช่น 🇬🇧 ลอนดอน
- เว็บแบงก์ออนไลน์ ℹ️ อาจไม่ชอบ Dynamic IP ของ Nexus – ปิดได้ หรือเพิ่มเว็บใน Everlink
- ตำแหน่งเสมือน ℹ️ 45 จาก 100 ประเทศเป็น virtual – ภาษาอาจเปลี่ยน แต่สปีดยังดี
ดูแผนที่ Netflix แบบละเอียดจาก Surfshark ได้ที่นี่:
💡 เทคนิคปลดบล็อก Netflix เพิ่ม:
- ยังเห็น Netflix ประเทศเดิม? ออกจากบัญชี, ปิด VPN, ล้างคุกกี้ แล้วเชื่อมใหม่กับโหนดใหม่
- ปิด Nexus Dynamic IP ตอนดูหนัง: เพราะ Netflix ไม่ชอบ IP ที่เปลี่ยนกลางคัน
- ถามแชต Surfshark ว่าเซิร์ฟเวอร์ไหนเหมาะสุดสำหรับ Netflix – พวกเขามีลิสต์ลับเปลี่ยนทุกสัปดาห์
(ดูรีวิวการซัพพอร์ตที่ ส่วนถัดไป)
ใช้งานในประเทศที่เซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต
สำหรับประเทศที่จำกัดเนื้อหา เช่น 🇨🇳 จีน, 🇹🇷 ตุรกี, 🇷🇺 รัสเซีย, 🇮🇷 อิหร่าน – Surfshark มีลูกเล่นหลายอย่าง:
- โหมด No Borders (เปิดใน Settings → VPN Settings) จะเปิดลิสต์เซิร์ฟเวอร์พิเศษอัตโนมัติ ที่ออกแบบมาใช้ในประเทศที่ถูกบล็อก
- OpenVPN (Windows) หรือ IKEv2 (Mac) เป็นโปรโตคอลที่เชื่อมผ่านไฟร์วอลล์รัฐได้ดีกว่า
- Camouflage Mode เปิดอัตโนมัติเมื่อใช้ OpenVPN – ISP จะไม่รู้ว่าคุณใช้ VPN ด้วยซ้ำ
คำเตือน: เราแนะนำให้ตั้งค่าไว้ ก่อนเดินทาง ไปประเทศที่เข้าถึงเน็ตยาก เพราะหลายเว็บถูกบล็อกแม้แต่หน้าหลัก
จากผลทดสอบจริงหลายปี Surfshark ผ่านทุกโจทย์โลกจริงได้สบาย ๆ
…แต่ถ้าเจอคลื่นแรงกลางทาง ทีมช่วยเหลือพร้อมช่วยไหม? 🛟
ฝ่ายซัพพอร์ตของ Surfshark ดีไหม?
ถ้าคุณใช้ Surfshark แล้วเจอปัญหา – หรือแม้แต่อยากสอบถามอะไรก่อนสมัคร
ก็มี 3 ช่องทางให้เลือกติดต่อ:
- แชตสด เปิดให้ตลอด 24 ชม. ทั้งบนเว็บไซต์และในแอป (เดี๋ยวเราจะเจาะลึกช่องทางนี้)
- แบบฟอร์มติดต่อ สำหรับคำถามทั่วไปที่ไม่เร่งด่วน – จะได้รับคำตอบทางอีเมล
- ศูนย์ช่วยเหลือ (Help Center) มีบทความตอบคำถามที่พบบ่อยอยู่แล้วแบบละเอียด
เราขอเน้นที่ช่องทางหลัก – แชตสด:
คุณสามารถเข้าถึงแชตสดได้จากลิงก์ “Help Center” ในเมนู “My Account” ที่มุมขวาบนของหน้าเว็บไซต์
หรือจะเข้าในแอปก็ได้จาก Settings → Get Help → Get Help Now
ใน 2025 แน่นอนว่า…ต้องมีแชตบอทมาเจอก่อน
ซึ่งจะขอชื่อ อีเมล และคำอธิบายปัญหาคร่าว ๆ
…แต่หลังจากนั้นจะมีปุ่มให้กดเข้า แชตสดกับพนักงานจริง ทันที – ซึ่งหาได้ยากมากสำหรับ VPN เจ้าอื่น
พนักงานตอบเร็วแบบไม่น่าเชื่อ – ส่วนใหญ่แค่ไม่กี่วินาทีหลังจากขอแชต
และใช่…เราเทสต์แบบจัดหนัก 💥
เราถามทั้งคำถามทั่วไป
“เซิร์ฟเวอร์ไหนเหมาะกับ Netflix US ช่วงนี้?”
ไปจนถึงคำถามเทคนิค
“จะปิด Dynamic IP แค่กับบางเว็บทำไง?”
(แถมยังเห็นพนักงานเปลี่ยนกะ แล้วโอนให้เพื่อนร่วมงานต่อได้ลื่นมาก)
ความเห็นของเรามีดังนี้:
- ความเร็วในการตอบ: เฉลี่ย 10–30 วินาที ⚡ แม้แต่เย็นวันอาทิตย์
- ความแม่นยำ: ตอบชัดเจน ตรงจุด มีพื้นฐานเทคนิค 🎯
- ทัศนคติ: สุภาพ ใจเย็น บางครั้งมีแซวขำ ๆ ด้วย 😄 (แม้จะฟังดูง่วงบ้าง – เราเข้าใจได้!)
นอกจากแชตสด เรายังเจอช่องทางชุมชนที่น่าสนใจ:
– Surfshark มี Subreddit ชื่อ r/Surfshark ที่มีสมาชิกกว่า 20,000 คน
– และ Discord Server ที่มีคนไทยและต่างชาติเข้าร่วมมากกว่า 4,000 คน ณ กรกฎาคม 2025
บางทีคำตอบก็หาได้ที่นั่นเลย – โดยไม่ต้องรอทีมซัพพอร์ต
90% ของปัญหามีคนเจอและแชร์วิธีแก้ไว้แล้ว!
สรุป: ทีมงาน Surfshark เท่ากับลูกเรือมืออาชีพ พร้อมพาคุณฝ่าคลื่นตลอดทาง
ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มใช้ VPN หรือเป็นแฮกเกอร์ฝึกหัดในเรือโจรสลัด – แชตสดก็พาคุณรอดได้
***
ต่อไป…เราจะเปิดหีบสมบัติที่หลายคนรอคอย 🏴☠️ ส่วนลด Surfshark แบบลับเฉพาะ!
ราคาและการขอเงินคืน
เรื่องราคานั้น… Surfshark 🦈 “กลืนคู่แข่งได้เรียบ” เลยก็ว่าได้ – แค่ดูแผนที่ถูกที่สุดจาก VPN เจ้าดังอื่น ๆ ก็พอเห็นภาพ:
แผน Starter
แบบจ่าย 2 ปีล่วงหน้าของ Surfshark ยังถูกกว่า แม้เทียบกับ VPN เจ้าอื่นที่ให้แผน 3 ปีเสียอีก!
ตอนนี้คุณสามารถเลือกได้จาก 3 แพ็คเกจหลัก ซึ่งแต่ละแพ็คเกจมีให้เลือกจ่ายเป็นรายเดือน รายปี และ 2 ปี:
⚠️ เหมือนกับบริการออนไลน์อื่น ๆ
ราคาที่เห็นเป็น ราคาสำหรับรอบแรกเท่านั้น — รอบถัดไปจะคิดตามราคาปกติ
เราแนะนำให้ตั้งเตือนไว้ล่วงหน้า 1–2 สัปดาห์ก่อนครบกำหนด เพื่อประเมินว่าจะต่ออายุหรือเปลี่ยนใจดีไหม
นี่คือตารางราคาแบบตรง ๆ (ตรวจสอบแล้วในประเทศไทย กรกฎาคม 2025)
ทุกแพ็คเกจมี การเชื่อมต่อไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์ + รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ที่เราจะพูดถึงอีกทีเร็ว ๆ นี้:
แพ็คเกจ | ราคาต่อเดือน | ยอดชำระครั้งแรก | สิ่งที่รวม | ประหยัดจากรายเดือน |
---|---|---|---|---|
Starter (24+3 เดือน) |
$1.99 / เดือน | $53.73 ชำระครั้งเดียว | VPN + ตัวบล็อกโฆษณา + Alternative ID | -87% |
One (24+3 เดือน) |
$2.49 / เดือน | $67.23 ชำระครั้งเดียว | Starter + แอนตี้ไวรัส + การแจ้งเตือนรั่วไหล |
-86% |
One+ (24+3 เดือน) |
$3.99 / เดือน | $107.73 ชำระครั้งเดียว | One + Incogni (ลบข้อมูลส่วนตัว) |
-81% |
แบบรายเดือน | $15.45 / เดือน | เรียกเก็บรายเดือน | ฟีเจอร์เหมือนกัน แต่ยกเลิกได้ตลอด | — |
แน่นอนว่า Starter
คือแผนที่ คุ้มที่สุด ถ้าคุณแค่มองหา VPN ที่ปลอดภัย เสถียร และถูกจริง ๆ
และถ้าวันหนึ่งคุณอยากเพิ่มความปลอดภัยขั้นสูง ก็สามารถอัปเกรดเป็นแพ็คเกจบนได้ทุกเมื่อ
***
บางคนอาจจะเริ่มคิดแล้วว่า:
แล้วจะให้จ่ายล่วงหน้า 2–3 ปี ทั้งที่ยังไม่เคยลองเลยเหรอ?
เข้าใจได้เลย – เพราะ VPN ส่วนใหญ่ ไม่มีให้ทดลองใช้ฟรี อยู่แล้ว (Surfshark ก็เช่นกัน)
แต่! คุณสามารถลองใช้ Surfshark แบบ ไม่มีความเสี่ยง ได้เช่นกัน
พวกเขามีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ซึ่งใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก
ทำตามขั้นตอนนี้ได้เลย:
- เปิด แชตใหม่ กับทีมงาน Surfshark (ดูวิธีใน ส่วนซัพพอร์ต)
- พิมพ์คำว่า “refund” ลงในแชต – ระบบจะแนะนำบทความ และมีปุ่ม Live chat ให้กด
- แจ้งพนักงานว่าคุณต้องการ ยกเลิกบัญชีพร้อมขอเงินคืน ภายใต้นโยบายรับประกัน 30 วัน
- ย้ำคำขออย่างสุภาพ หากพนักงานเสนอแนวทางแก้ไขก่อน
เรียบร้อย! เงินจะคืนเข้าบัญชีคุณภายใน 5–7 วันทำการ
และใช่ – เราทดลองด้วยบัญชีจริง และได้รับเงินคืนครบตามที่สัญญาไว้
พูดง่าย ๆ คือ คุณได้ลองใช้ VPN ที่คุ้มที่สุดในตลาด พร้อมสิทธิ์คืนเงิน 100% ภายใน 1 เดือน
แล้วถ้าอยากได้ ราคาที่ถูกลงไปอีก? ไปต่อที่ส่วนถัดไปเลย 👇
โบนัสพิเศษ: คูปองส่วนลด Surfshark
รู้ไหมว่าคุณสามารถรับส่วนลดเพิ่ม อีก 20% 🪙 จากราคาที่เห็นได้ง่าย ๆ ด้วยเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ?
ลองทำตามขั้นตอนนี้เพื่อปลดล็อกราคาที่ถูกที่สุดได้เลย:
- เริ่มจากกดปุ่มด้านล่างเพื่อไปยังหน้าสั่งซื้อ Surfshark (ลิงก์จะเปิดในหน้าต่างใหม่):
- เลือกแพ็คเกจที่คุณต้องการ โดยแนะนำให้เลือกแบบ 24 เดือน เพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด
-
ในหน้าชำระเงิน ให้กด
x
เพื่อลบคูปองsurfsharkdeal
(หรือคูปองอื่นที่อาจใส่มาอัตโนมัติ):จากนั้นให้นำโค้ดนี้ไปวางในช่องใส่คูปอง:
COMEBACK_89DYE -
คลิก “Apply” แล้วคุณจะเห็นราคาลดลงอีก 20% 🤑
ถ้าไม่เวิร์ก คุณสามารถใช้โค้ดSATORI
สำรองได้เช่นกัน
และถ้า โค้ดไม่ทำงานหรือเกิดปัญหาอะไร – กรุณาแจ้งเราทาง คอมเมนต์ด้านล่าง ได้เลยนะครับ!
***
เรียบร้อย – ถึงเวลาเปิดใบเรือ ออกเดินทางทะเลไซเบอร์แล้วล่ะ!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Surfshark VPN
🦜 รวมคำตอบของคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Surfshark VPN ใน 2025:
Surfshark ปลอดภัยจริงไหม?
ปลอดภัยแน่นอน — Surfshark มีนโยบายไม่บันทึกข้อมูล (no-logs) ใช้เซิร์ฟเวอร์แบบ RAM-only และผ่านการตรวจสอบโดยบริษัทอิสระหลายครั้ง นอกจากนี้ยังใช้การเข้ารหัสระดับสูง (AES-256-GCM) และมีฟีเจอร์ความปลอดภัยอย่าง MultiHop และ Kill Switch ด้วย
ใช้ Surfshark กับอุปกรณ์ได้ไม่จำกัดจริงไหม?
จริง 100% ต่างจาก VPN ส่วนใหญ่ Surfshark ให้คุณเชื่อมต่อ กี่เครื่องก็ได้ ด้วยบัญชีเดียว — ไม่ว่าจะเป็นมือถือ แล็ปท็อป แท็บเล็ต ทีวี หรือแม้แต่เราท์เตอร์
Surfshark ใช้ปลดบล็อก Netflix กับบริการอื่น ๆ ได้ไหม?
ได้เกือบทั้งหมด — จากการทดสอบของเรา Surfshark ปลดบล็อก Netflix ของ US, UK, ญี่ปุ่น รวมถึง Disney+, HBO Max และ BBC iPlayer ได้สำเร็จ ถ้าเซิร์ฟเวอร์ไหนใช้ไม่ได้ ลองเปลี่ยนไปเซิร์ฟเวอร์อื่นในประเทศเดียวกันได้เลย
Surfshark Nexus คืออะไร?
Surfshark Nexus เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ให้คุณเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของ Surfshark แทนที่จะใช้แค่เซิร์ฟเวอร์เดียว ทำให้การเชื่อมต่อเร็วขึ้น เสถียรขึ้น และรองรับ IP แบบหมุนได้ในระหว่างการใช้งาน
ฟีเจอร์ Everlink ใช้ทำอะไร?
Everlink ช่วยให้คุณเชื่อมต่อเว็บไซต์ที่เลือกไว้ (เช่น ธนาคาร อีเมล Google Docs) ได้ต่อเนื่อง แม้ VPN จะเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์หรือรีเชื่อมต่อ — เหมาะสำหรับคนที่ทำงานออนไลน์หรือจ่ายเงินผ่านเว็บบ่อย ๆ
สามารถยกเลิก Surfshark และขอเงินคืนได้ไหม?
ได้เลย — Surfshark มีนโยบาย คืนเงินภายใน 30 วัน แค่ติดต่อแชตซัพพอร์ต บอกว่าต้องการยกเลิก และเงินจะถูกคืนภายใน 5–7 วันทำการ
สำนักงานใหญ่ของ Surfshark อยู่ที่ไหน?
Surfshark จดทะเบียนใน ประเทศเนเธอร์แลนด์ แม้จะอยู่ในกลุ่มประเทศ 14-Eyes แต่โครงสร้างของ Surfshark ถูกออกแบบมาให้ไม่เก็บข้อมูลใด ๆ และเซิร์ฟเวอร์แบบ RAM-only จะล้างข้อมูลทั้งหมดทุกครั้งที่รีสตาร์ท
ข้อดีและข้อเสียของ Surfshark
ก่อนจะสรุปสุดท้าย – มาดูกันแบบชัด ๆ ว่า Surfshark มีจุดแข็งตรงไหน และควรระวังอะไรบ้าง:
- เชื่อมต่อได้ไม่จำกัดอุปกรณ์: สมัครครั้งเดียว ใช้ได้กับทุกมือถือ แล็ปท็อป ทีวี และเราท์เตอร์ในบ้าน
- ราคาถูกที่สุดในระยะยาว เมื่อเทียบกับ VPN ระดับพรีเมียม: แผน
Starter
แบบ 24 + 3 เดือน เฉลี่ยต่ำกว่า $1.90 ต่อเดือน — และยังใช้ คูปองส่วนลด ได้อีก - เครือข่าย RAM-only ความเร็วสูง 10 Gbps: ความเร็ว WireGuard สูงสุดกว่า 900 Mbps บนเน็ตแรง เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดไม่เก็บข้อมูลถาวรเลย
- Nexus และ Dynamic MultiHop: หมุน IP ระหว่างใช้งาน เพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือเชื่อมหลายประเทศต่อกันได้ — ฟีเจอร์ที่ VPN อื่นยังไม่มี
- Everlink ป้องกันหลุด: ใช้งานธนาคารหรือ Google Docs ได้ต่อเนื่อง แม้ VPN จะเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ — ไม่มีหลุดล็อกอินอีกต่อไป
- ปลดบล็อกทุกแพลตฟอร์มใหญ่: Netflix US/UK/JP, Disney+, BBC iPlayer, HBO Max, Amazon Prime – ทดสอบล่าสุด (ก.ค. 2025) ผ่านหมด
- แพลนบนมีฟีเจอร์เสริมครบ: แอนตี้ไวรัส การแจ้งเตือนข้อมูลรั่ว และบริการลบข้อมูล (Incogni) มาพร้อมในแพลน
One
และOne+
- แชตสดเร็วและเป็นมิตร 24/7: คนจริงตอบภายใน ~20 วินาที + มีชุมชนใน Reddit และ Discord สำหรับคำถามเฉพาะทาง
- ราคาต่ออายุพุ่ง: เหมือน VPN เจ้าอื่น ราคาจะกลับเป็นปกติหลังรอบแรก – อย่าลืมตั้งเตือนในปฏิทินไว้ว่าจะต่อหรือไม่
- Dynamic IP อาจทำให้บางเว็บงง: โดยเฉพาะธนาคารหรือแอปสตรีมมิ่งที่ใช้ IP คงที่ — อาจต้องปิดหมุน IP ในบางครั้ง
- 45 จาก 100 ประเทศเป็นเซิร์ฟเวอร์เสมือน: ได้หลากหลายประเทศก็จริง แต่ภาษาเนื้อหาหรือราคาท้องถิ่นอาจไม่ตรง (เช่น ขึ้นว่า “ยอดนิยมในเยอรมัน” ทั้งที่ต่อผ่าน “กรีนแลนด์”)
- ยังไม่เสถียรในจีน: No Borders mode ช่วยได้ในหลายกรณี แต่ยังไม่เสถียรเท่า VPN ที่ออกแบบมาเฉพาะ — ควรเตรียมตัวล่วงหน้าหากจะเดินทาง
และต่อไปคือบทสรุปของการเดินทางครั้งนี้:
บทสรุป + รีวิวจากผู้ใช้งาน
การแฮกข้อมูล ตัวติดตามโฆษณา การบล็อกเนื้อหาตามภูมิภาค ข้อจำกัดของรัฐบาล และโฆษณาตามพฤติกรรมการใช้งานของคุณ…
🌊 แล้ว Surfshark VPN คือผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ในการล่องทะเลอินเทอร์เน็ตที่แสนโหดร้ายนี้ไหม?
สรุปสั้น ๆ คือ:
ถ้าคุณเบื่อ VPN ราคาแพง แอปช้า หลุดบ่อย และจำกัดจำนวนอุปกรณ์
Surfshark จะให้ความรู้สึกเหมือนลมทะเลเค็ม ๆ (ที่เข้ารหัสแล้ว) ที่พัดโชยมาอย่างสดชื่น:
- ความปลอดภัยระดับสูง: การเข้ารหัส AES-256, Kill Switch, MultiHop, Camouflage mode รวมถึงของใหม่อย่าง Nexus และ Everlink
- ไม่เก็บข้อมูล + เซิร์ฟเวอร์ RAM-only: แม้มีคนมาขอข้อมูล ก็ไม่มีอะไรให้เลย
- เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่: 3200+ เซิร์ฟเวอร์ในกว่า 100 ประเทศ ความเร็วดีทั่วโลก และดู Netflix ได้สบาย
- ราคาดีเกินคาด: ถูกกว่า VPN เจ้าใหญ่เกือบทุกเจ้า และ ถูกยิ่งกว่าเดิม ถ้าใช้ เทคนิคคูปองของเรา
แถมยังมี นโยบายคืนเงินภายใน 30 วัน ลองใช้แบบไม่มีความเสี่ยงได้เลย
บทสรุป:
Surfshark ให้คุณมากกว่า VPN เจ้าใหญ่ถึง 110% – แต่จ่ายแค่ 30% ของราคา แถมใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ในบ้าน ;)
(ถ้าคุณคิดจะลองใช้ อย่าลืมดูวิธีใช้คูปองใน ส่วนก่อนหน้า เพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดนะ)
…ยังลังเล อยู่? มี คำแนะนำ หรืออยาก แบ่งปันประสบการณ์ ของคุณกับ Surfshark?
แวะมาแสดงความเห็นหรือเข้าร่วมพูดคุยกันได้ใน ส่วนคอมเมนต์ด้านล่าง
มาช่วยกันให้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น!
หมายเหตุ: บางลิงก์ในรีวิวนี้เป็นลิงก์พันธมิตร ซึ่งหมายความว่าเราจะได้รับค่าคอมมิชชันเล็กน้อยถ้าคุณซื้อผ่านลิงก์เหล่านี้ – โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใด ๆ สำหรับคุณ มันช่วยให้เราดำรงเว็บนี้ต่อไปได้ ฮ่าฮ่าฮ่า!