☑︎ รีวิวนี้ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ พฤศจิกายน 2024
ทุกวันนี้ Surfshark เป็นผู้ให้บริการ VPN หรือ เครือข่ายเสมือนส่วนตัว (Virtual Private Network) ที่กำลังโตเร็วที่สุดในโลก
ถ้าคุณกำลังอ่านรีวิวนี้อยู่ คุณอาจจะกำลังคิดว่า Surfshark เป็นแค่ปลาตัวเล็กสุดเก๋ในทะเลดิจิตอลหรือเปล่า – หรือเป็นนักล่าตัวใหม่ น่าใช้ คุ้มค่าราคาที่คุณจ่ายหรือไม่?
เราดีใจที่คุณถาม
ในรีวิวเชิงลึกนี้ เราจะ ไม่ เสียเวลาอธิบายหน้าตา หรือแสดงหน้าจอแอปของ Surfshark
แต่การวิเคราะห์ของเรา จะตอบคำถามสำคัญของคุณเกือบทั้งหมดที่คุณอาจจะมีเกี่ยวกับบริการ VPN นี้ รวมทั้งเรื่องเหล่านี้ก่อน:
- Surfshark แตกต่าง จากบริการ VPN ที่อื่นไหม?
- ข้อมูลส่วนตัวของคุณปลอดภัยแค่ไหน กับ Surfshark?
- เซิร์ฟเวอร์ของบริการนี้ดี (=เร็ว) แค่ไหน?
- ราคาลดสุดๆ ของ Surfshark คุณจะได้ราคาเท่าไหร่?
พูดถึงราคาลด – ในตอนท้ายของรีวิวนี้ เราจะแสดงขั้นตอนการสมัครสมาชิก โดยจ่ายราคาต่ำสุดจริงๆสำหรับสมัครสมาชิก Surfshark (ถ้าคุณสนใจจะลองใช้)
แต่ก่อนอื่น มาดูกันก่อนว่า Surfshark น่าสนใจจริงหรือเปล่า
ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ความเร็วและสถานที่
ปลดล็อคและสตรีมมิ่ง
ราคาและการคืนเงิน
โบนัส: คูปอง Surfshark
คำตัดสินของเรา
รีวิวผู้ใช้งาน Surfshark
Surfshark ต่างจากผู้ให้บริการ VPN รายอื่นยังไง?
ทุกวันนี้บริการ VPN ส่วนใหญ่ ให้บริการด้วยหน้าตาสวยงาม รับชำระด้วยเงินดิจิตอล (cryptocurrency) ได้ และให้บริการด้วยเซิร์ฟเวอร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก
Surfshark ก็เช่นเดียวกัน
เพื่อช่วยคุณตัดสินใจตามเหตุผล เราได้รวบรวมลักษณะสำคัญ โดดเด่น ของ Surfshark – ข้อดีที่แข่งขันได้ ว่างั้นเถอะ
- ราคาต่ำมากกก: แม้แพ็คเกจรายเดือนราคาสูงกว่าบริการ VPN ขนาดใหญ่รายอื่นหน่อย แพ็คเกจราย 2 ปีของSurfshark ลด 80%+ ส่วนลดเพิ่ม ทำให้ราคาต่ำสุดๆและคุ้มมาก
- ใช้งานได้ ไม่จำกัดจำนวนเครื่อง: ตรงกันข้ามกับบริการ VPN รายอื่น Surfshark ให้คุณใช้บริการได้ ไม่ใช่แค่ 5 หรือ 7 แต่กี่เครื่องก็ได้ ในเวลาเดียวกัน
- การรับประกันของนกขมิ้น (Warrant canary): Surfshark เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ VPN เพียงไม่กี่รายที่แสดงข้อมูลให้เห็นชัดเจนว่า พวกเขายังไม่เคยได้รับคำร้องหรือคำสั่งให้เปิดเผยข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ข้อสุดท้ายนั้นค่อนข้างน่าสนใจ และอธิบายเพิ่มเติมได้ว่า การรับประกันของนกขมิ้นที่ระบุไว้นั้น เพราะในบางประเทศ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา) บริษัทไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับคำสั่งให้เปิดเผยข้อมูลซึ่งบริษัทได้รับจากหน่วยงานของรัฐ
ด้วยเหตุนั้น บางบริษัทจึงใช้วิธีแถลงการณ์ต่อสาธารณะว่า บริษัทยังไม่ได้รับคำสั่งดังกล่าว – ซึ่งไม่มีการห้ามอย่างชัดเจน
กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ หากคุณเห็นเลขศูนย์บนเว็บไซต์ของ Surfsharkหน้าเกี่ยวกับการรับประกันของนกขมิ้น คุณมั่นใจได้เลยว่า ยังไม่มีหน่วยงานของรัฐเข้าไปยุ่งกับการดำเนินธุรกิจของพวกเขา
เกี่ยวกับประเด็นนี้ มาดูกันต่อว่า เราจะเชื่อได้ไหมว่า Surfshark จะปกป้องข้อมูลส่วนตัวของเรา
ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ Surfshark
Surfshark ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้ เห็นได้จากมาตรการหลายอย่างที่ดำเนินการอยู่ ดังนี้
- ฟังก์ชัน มัลติฮ็อบ (MultiHop) เพื่อให้การซ่อน IP ดียิ่งขึ้น – นั่นคือ เมื่อการเชื่อมต่อของคุณ จัดการโดยเซิร์ฟเวอร์ VPN หลายแห่ง ร่องรอยการใช้งานออนไลน์ของคุณก็จะกระจัดกระจาย
- โหมด พรางตัว (Camouflage) เพื่อทำให้แน่ใจว่า แม้แต่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP ของคุณ ก็บอกไม่ได้ว่าคุณใช้บริการ VPN
- มีระบบปิดสวิตซ์ ซึ่งปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติ หากการเชื่อมต่อ VPN ของคุณเกิดการรบกวน ทำให้มั่นใจได้ว่า ข้อมูลส่วนตัวของคุณจะไม่มีการเปิดเผยแน่นอน
อีกอย่างหนึ่ง คุณไม่ต้องสนใจมากก็ได้นะ หากเห็นโฆษณาเกี่ยวกับมาตรฐานการเข้ารหัสลับ บนเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ:
เพราะระบบที่ดีมีมาตรฐานเกือบทั้งหมดทุกวันนี้ ใช้ AES-256-GCM cipher (256-bit Advanced Encryption Standard ในโหมด Galois/Counter) – จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หากมีการโฆษณาเข้าข้าง VPN ของตัวเองนิดนึง 💪
แทนที่จะนึกถึงจุดนั้น สิ่งที่สำคัญที่แท้จริงซ่อนอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ให้บริการ VPN แต่ละแห่ง – รายละเอียดนั้น คือจุดที่คุณพบข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนตัวของคุณที่แท้จริง
หรือ จริงละ คุณไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ –
เพราะเราได้วิเคราะห์ตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Surfshark อย่างละเอียดแล้ว และสรุปได้ดังนี้
- ส่วนที่ 1 กล่าวได้ว่า เป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะระบุข้อมูลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูล เรียกสั้นๆก็คือ เลขที่อยู่ IP ที่แท้จริงของคุณนั่นเอง และข้อมูลอื่นที่สามารถระบุตัวตนที่แท้จริงได้ ไม่มีการเก็บข้อมูลนี้โดย Surfshark
- ไม่มีการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล เป็นเงื่อนไขในการสร้างบัญชีที่ Surfshark – คุณใช้แค่ที่อยู่อีเมลในการสมัคร และอีเมลนิรนาม เช่น ProtonMail ก็ใช้งานได้เช่นเดียวกัน หากคุณจริงจังเรื่องนี้มาก
- ตามข้อมูล ส่วนที่ 10 การดูแลเรื่องความเป็นส่วนตัวของ Surfsharkอยู่ภายใต้กฎหมายของ British Virgin Islands ขอบเขตกฎหมายที่นี้เป็นที่รู้จักกันดี เรื่องการให้ความสำคัญกับการเก็บข้อมูลเป็นความลับ
สิ่งสำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่ง คือ Surfshark ปฏิบัติตามนโยบายงดบันทึกรายการ (no-logs policy) อย่างเข้มงวด นั่นหมายความว่า บริษัทไม่มีการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ผ่านบริการของเขา
นั่นรวมไปถึงที่อยู่ IP ตัวระบุการเชื่อมต่อ ประวัติการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ฯลฯ กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ – ข้อมูลใดก็ตามที่สามารถโยงกลับมาถึงตัวคุณได้นั่นเอง
แม้ว่าวันหนึ่ง Surfshark อาจจะถูกบังคับโดยรัฐบาลของ British Virgin Islands (ซึ่งข้อนี้ คงจะเกิดขึ้นยากมาก) ให้เปิดเผยข้อมูลใดก็ตาม บริษัท จะไม่มีอะไรมากมายจะเปิดเผย เพราะไม่มีการเก็บประวัติการใช้งานของลูกค้าไว้เลย
เพราะฉะนั้น ความเป็นส่วนตัว: ✔️
แล้วประสิทธิภาพการใช้งานล่ะ?
ความเร็วและสถานที่
ตามข้อมูล บนเว็บไซต์ Surfshark ให้บริการโดยผ่านการประมวลผลโดยเซิร์ฟเวอร์กว่า 1000+ เครื่อง ในกว่า 60 ประเทศ คุณควรทราบว่า แม้เซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวนั้นจะเป็น สถานที่ตั้งที่แท้จริง ของอุปกรณ์ แต่สถานที่บางแห่งเป็นเพียง ที่อยู่เสมือน –
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเชื่อมต่อผ่าน Albania หรือ Chile คุณจะได้รับที่อยู่ IP ของท้องถิ่น แต่เซิร์ฟเวอร์ที่ประมวลผลการเชื่อมต่อของคุณอาจจะอยู่ที่ Germany หรือ Colombia ตามลำดับ
การเชื่อมต่อลักษณะนี้ ไม่มีผลกระทบต่อความเร็วหรือความเป็นส่วนตัว แต่คุณอาจจะเห็นข้อมูลออนไลน์บางส่วนในภาษาที่คุณไม่คุ้นเคย ขณะที่คุณใช้งานจากพื้นที่เสมือนเช่นนั้น
เอาเถอะ แม้จะไม่มีอะไรเด่นมากมายนัก สำหรับผู้ให้บริการ VPN สมัยใหม่ ที่จะให้บริการเซิร์ฟเวอร์เป็นหลายพันครึ่ง ในหลายสิบประเทศ เรายังต้องตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่า Surfshark ให้บริการระดับมาตรฐานหรือเปล่า
แล้วเรื่องความเร็วล่ะ?
เพื่อตอบคำถามที่ดูเหมือนจะเป็นคำถามง่ายมากนี้ เราควรทราบว่า มันไม่เพียงพอ ที่จะแค่เปิดใช้งาน VPN แล้วทดสอบความเร็วจากที่ไหนก็ได้
เวลาเราทดสอบการเชื่อมต่อผ่าน VPN เราวัดความเร็วจากทุกจุดที่เชื่อมต่อได้ ในแต่ละครั้ง ใช้เครื่องมือที่เป็นอิสระต่อกัน 2 อย่าง (SpeedTest และ Fast.com) โดยทดสอบอย่างละ 5 ครั้ง
ความเร็วการเชื่อมต่อของเรา (โดยไม่ผ่าน VPN) มีความเร็วเฉลี่ยที่ 50 Mb/s ทดสอบโดย SpeedTest และ 40 Mb/s ทดสอบโดย Fast.com
ผลการตรวจสอบจากพื้นที่ใช้งาน Surfshark มากที่สุดมีดังนี้
จากการทดสอบของเรา ความเร็วการเชื่อมต่อทั่วโลกโดยเฉลี่ยประมาณ 30 Mb/s สำหรับ SpeedTest และ 20 Mb/s สำหรับ Fast.com – ซึ่งเป็น ผลการทดสอบที่ดีมาก สำหรับผู้ให้บริการ VPN รายใหญ่
ในพื้นที่หลักส่วนใหญ่ ความเร็วของ Surfshark ใกล้เคียงมากกับตัวเลขความเร็วสูงสุดของเรา (ไม่ผ่าน VPN) เราแทบจะไม่เห็นความแตกต่างเลย แม้จะใช้ซอฟท์แวร์พิเศษแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ความเร็วเฉพาะของคุณแต่ละครั้ง อาจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตัวแปรหลายอย่าง รวมทั้งตำแหน่งที่ตั้งของคุณ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ รวมทั้งช่วงวันและเวลาในแต่ละสัปดาห์ –
แต่ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม การทดสอบลักษณะนี้จะยังคงแสดงมาตรฐานคร่าวๆ และสามารถเทียบกันระหว่างแต่ละตำแหน่งที่ตั้งได้ 📋
ต่อไป: Surfshark สามารถทำงานผ่านการปิดกั้นในบางพื้นที่ได้ดีแค่ไหน?
ปลดล็อคและสตรีมมิ่ง
นอกจากการทดสอบความเร็วอย่างครอบคลุมแล้ว เรายังตรวจสอบด้วยว่า ผู้ให้บริการ VPN ช่วยให้คุณเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งยอดนิยมอย่าง Netflix จากที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์แต่ละแห่งหรือไม่
การทดสอบของเราพบว่า ตั้งแต่ Netflix ทำการคัดกรองอย่างเข้มงวดตั้งแต่เดือนมกราคม January 2020 นี้ บริการสตรีมมิ่ง ใช้งานได้ เมื่อเชื่อมต่อผ่านที่ตั้งหลักของ Surfshark รวมทั้งที่สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และสหภาพยุโรป
การเชื่อมต่อผ่าน Surfshark VPN จากที่อื่นส่วนใหญ่ คุณสามารถเปิดแอปหรือเว็บไซต์ Netflix ได้ แต่การชมเนื้อหาภาพและเสียงอาจจะมีการติดขัดบ้าง
แต่โดยส่วนใหญ่ คุณจะใช้แค่ Netflix เวอร์ชันของสหรัฐอเมริกา เพราะมีภาพยนตร์และซีรีส์ให้เลือกชมมากที่สุด
***
สำหรับประเทศที่มีการปิดกั้น (ชัดเจนที่สุดคือ ประเทศจีน และประเทศอื่น เช่น ตุรกี รัสเซีย และสิงค์โปร์) Surfshark มีแนวทางดำเนินงานพร้อมลุยหลายอย่าง
- โหมดไร้พรมแดน ใช้งานได้โดยการเปิดปิดที่การตั้งค่าของแอป สิ่งที่โหมดนี้ทำคือ เปิดใช้เซิร์ฟเวอร์พิเศษอัตโนมัติ ซึ่งออกแบบให้ทำงานภายใต้การปิดกั้นของรัฐได้
- อินเตอร์เฟส OpenVPN (Windows) หรือ IKEv2 (MacOS) ทำให้การเชื่อมต่อผ่านเซิร์ฟเวอร์ Surfshark ได้ ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์ด้วยอินเทอร์เน็ต
- โปรโตคอล Shadowsocks ใช้ลอดผ่านกำแพงกั้นของจีนโดยเฉพาะ Shadowsocks คือ ตัวแทน (Proxy) จึงไม่มีการเข้ารหัสการเชื่อมต่อของคุณ – แต่ถ้าสิ่งที่คุณต้องการคือ การเข้าถึงข้อมูลเท่านั้น วิธีนี้เป็นทางเลือกที่ใช้ได้ หากลองใช้วิธีอื่นแล้วไม่สามารถใช้งานได้
โดยรวมแล้ว แม้จะบอกไม่ได้แน่นอนว่า VPN จะใช้งานได้หรือไม่ ในทุกพื้นที่ของประเทศอย่างประเทศจีน – แม้อาจจะใช้งานได้ในเมืองหนึ่ง – Surfshark มีเครื่องมือจำนวนมากให้คุณได้ลองใช้ เพื่อให้คุณมีโอกาสสูงสุดในการใช้งานได้สำเร็จ
ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เราแนะนำให้ตั้งค่าตัวเลือกทั้งหมดข้างต้น ก่อน ไปประเทศจีน เพราะเว็บไซต์ทางการของผู้ให้บริการหลายแห่งถูกปิดการใช้งานตลอดเวลาในอาณาจักรแห่งกำแพงนี้
***
เอาล่ะ เราตรวจสอบให้แน่ใจละว่า Surfshark มีคุณสมบัติครบถ้วน เมื่อพูดถึงความเร็ว ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และความเชื่อถือได้ มิติสุดท้ายที่ต้องพิจารณาคือ ราคา
ราคาและการคืนเงิน
ดูเหมือนว่า Surfshark จะทำงานหนักมากในฐานะผู้ให้บริการ VPN จุดแข็งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลยในเกมนี้ก็คือ ราคา
เรารู้ได้อย่างไร?
ง่ายๆเลย – เราตรวจสอบค่าบริการ VPN ทั่วทั้งตลาด เพราะภาพหนึ่งอธิบายได้เป็นพันคำ เราจึงใช้แผนภาพด้านล่างเสนอข้อมูลที่เรารวบรวมได้ แสดงราคาค่าบริการ แพ็คเกจถูกที่สุด ของบริการ VPN ที่มีการใช้งานมากที่สุด
แน่ล่ะ Surfshark ดูเหมือนจะ “กลืนคู่แข่งได้ทั้งหมดเลย” หากจะว่ากันเรื่องราคา…
บริการนี้ชนะแม้กระทั่งคู่แข่งที่เสนอแพ็คเกจ 3 ปี ขณะที่แพ็จเกจถูกที่สุดของ Surfshark เสนอเป็น แพ็คเกจราย 2 ปี หมายความว่า คุณจ่ายล่วงหน้าน้อยกว่า สำหรับราคาต่อเดือนต่ำกว่านั่นเอง
ถึงตรงนี้แล้ว คุณอาจจะสงสัยว่า
ละมีเหตุผลอะไรที่จะต้องจ่ายค่าบริการล่วงหน้า 2 หรือ 3 ปี สำหรับบริการที่คุณยังไม่ได้ลองใช้เลย?!
ก็จริงอ่ะนะ โชคร้ายหน่อยที่ว่า บริการ VPN ส่วนใหญ่ไม่มีการให้ทดลองใช้ฟรี – แต่คุณสามารถลองใช้บริการอย่าง Surfshark ได้ อย่างไร้ความเสี่ยง
การรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ทำได้ดังนี้
- ลงชื่อเข้าใช้งานบัญชีของคุณที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Surfshark และคลิกที่ปุ่มสีน้ำเงินสำหรับแชตด้านขวาล่าง
- พิมพ์อะไรก็ได้แล้วกด “Enter” – คุณจะได้รับคำแนะนำจากเนื้อหาความรู้ และปุ่ม “Live chat” ด้วย คลิกที่นั่น
- เขียนข้อความ แล้วส่งไปยังทีมบริการลูกค้า โดยระบุว่า คุณต้องการยกเลิกบัญชีของคุณตามนโยบายคืนเงินภายใน 30 วัน
(ใช่แหละ เราเคยลองขอรับเงินคืนทั้งหมดสำหรับการยกเลิกบัญชี ซึ่งเป็นวิธีการทดสอบอย่างหนึ่งของเรา)
แม้คุณจะไม่ให้เหตุผลว่า ทำไมจึงเลิกใช้ Surfshark ทีมบริการลูกค้าอาจจะพยายามขอให้คุณเปลี่ยนใจและใช้งานต่อ – ก็เป็นงานของเค้าอ่ะนะ 🦸
คุณเพียงแค่บอกให้ชัดเจนอีกครั้งว่า คุณต้องการปิดบัญชีและรับเงินคืน – ขอแค่ให้ทำภายในเวลาหนึ่งเดือน พนักงานจะยอมรับคำร้องของคุณ
รอสัก 5-7 วันทำการ ยอดเงินก็จะกลับมาที่บัญชีของคุณ เรียบร้อย!
เท่าที่เราทราบเกี่ยวกับ Surfshark ถึงตรงนี้ การที่คุณจะขอรับบริการคืนเงิน ไม่น่าจะเกิดขึ้น – แต่ก็เป็นเรื่องดีที่ทราบว่า มีทางเลือกนี้ถ้าคุณต้องการ คุณว่าไหม?
พูดถึงทางเลือก เรามีเกร็ดน่ารู้สำหรับผู้สนใจใช้บริการของ Surfshark
โบนัส: คูปองส่วนลด Surfshark
คุณทราบไหมว่า คุณสามารถรับส่วนลดที่ Surfshark ได้ด้วย โดยการใช้รหัสลดพิเศษ?
จำที่เราบอกไว้ ก่อนหน้านี้ ได้ไหมว่า แพ็คเกจ 2 ปีของ Surfshark ราคาต่ำกว่าแพ็คเกจ 3 ปี ของผู้ให้บริการรายอื่น?
อืมม์ เพราะไม่เป็นที่ทราบกันมากนักว่า Surfshark ก็ให้บริการแพ็คเกจ “2.25” ปีเช่นเดียวกัน ใช่ละ ราคายิ่งถูกลงอีก!
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อปลดล็อค
- เริ่มด้วย ไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Surfshark หน้าสั่งซื้อ โดยคลิกที่ปุ่มด้านล่าง (ลิงค์ตรงจะเปิดหน้าต่างใหม่):
- ด้านล่างรายการแพ็คเกจ 3 ราคา คลิกที่แท็บเล็กๆสีเขียว เขียนว่า ใช้คูปอง (“coupon applied”)
-
ช่องระบุคูปองจะเปิด และแสดงให้คุณเห็นคูปองส่วนลดที่ใช้งานอยู่ตอนนี้ ลบข้อมูลนั้นออก แล้วระบุรหัสนี้แทน
CYBERWEEK19
- คลิก “Apply” แล้วคุณจะเห็นตารางราคาเปลี่ยนไป แพ็คเกจ 24 เดือน จะกลายเป็น 24+3 เดือน ในราคาถูกกว่าเดิมอีก
เราก็ยอมรับนะว่า ราคาส่วนลดนั้นก็ไม่ได้เยอะอะไร แต่จะลดเท่าไหร่ ก็ดีกว่าไม่มีส่วนลดแน่นอน💸
เอาล่ะ ว่ากันเรื่องนี้จบแล้ว – ถึงเวลาสรุปสุดท้ายกัน
คำตัดสิน + รีวิวลูกค้า
การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โปรแกรมเจาะข้อมูล การคัดกรองเนื้อหาในบางพื้นที่ การปิดกั้นของรัฐ เนื้อหาโฆษณาเจาะตามข้อมูลส่วนตัวของคุณ …
Surfshark VPN เป็นบริการที่คุ้มค่าสำหรับการโลดเล่นในพื้นที่เละเทะอย่างอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่นี้ไหม?
ตามผลการค้นคว้าข้อมูลของเราและเสนอในรีวิวนี้ Surfshark คือบริการ VPN คุณภาพสูง อย่างน้อยก็ดีพอๆกับคู่แข่งรายอื่น
- ระบบความปลอดภัยระดับสูง ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสล่าสุดและเครื่องมืออย่าง MultiHop และโหมดพรางตัว
- การป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล ตามนโยบายไร้การบันทึกที่เข้มงวด และการที่บริษัทจดทะเบียนที่ British Virgin Islands ขอบเขตของกฎหมายที่นี่ มีชื่อเสียงด้านกฎการปิดข้อมูลเป็นความลับ
- ตัวเลือกสถานที่ ที่กว้าง (60+) พร้อมความเร็วการเชื่อมต่อที่น่าประทับใจ เพื่อให้คุณไม่รู้สึกติดขัดในการเข้าถึงข้อมูลหรือใช้บริการสตรีมมิ่งผ่าน VPN
- ศักยภาพการปลดล็อค ใช้งานได้ดี สำหรับบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix และการใช้งานในบางภูมิภาคที่มีการปิดกั้นทางอินเทอร์เน็ต
แต่นั่นไม่ใช่ภาพรวมทั้งหมด
– สิ่งสำคัญที่สุด คือ Surfshark ราคาถูกกว่าถึง 2-3 เท่า เมื่อเทียบราคาที่ผู้ให้บริการ VPN ยอดนิยมรายอื่น
นโยบายคืนเงิน ภายใน 30 วัน ใช้ได้จริง (เราได้ตรวจสองแล้ว ด้วยบัญชีจริง) ทำให้แพ็คแกจทั้งหมดนี้น่าสนใจยิ่งขึ้นอีก เพราะขจัดความเสี่ยงออกไปเลย ถ้าคุณจะลองใช้ Surfshark
สรุปก็คือ?
Surfshark เสนอประโยชน์ที่คุณได้รับทั้งหมด ในฐานะผู้ให้บริการ VPN ที่ดีเยี่ยม ในราคาน้อยนิด หากไม่มีอะไรแตกต่างเลยเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการ VPN รายใหญ่ที่อื่น – จ่ายแพงกว่าทำไม ถ้าคุณใช้บริการได้ในราคาถูกกว่าที่ Surfshark?
🤷
(ถ้าคุณจะลองใช้ Surfshark อย่าลืมดูขั้นตอนการปลดล็อคเพื่อรับส่วนลด ในส่วนที่เรากล่าวไปแล้ว)
***
ยังมีคำถามเกี่ยวกับ Surfshark? หรือคุณอาจจะลองใช้บริการ VPN นี้แล้ว และอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ของคุณ? เขียนรีวิวหรือร่วมพูดคุยกันได้ ด้านล่าง!