เมื่อเราได้ยินชื่อ “Avast” สิ่งแรกที่เรามักจะนึกถึงคือ “ป้องกันไวรัส” ก็จริง บริษัทความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตนี้ เป็นผู้ผลิตโปรแกรมต้านไวรัสขนาดใหญ่อันดับสองของโลก…
– แต่ในรีวิวโดยละเอียดของเรานี้ เราจะเน้นที่บริการเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (Virtual Private Network) ที่เรียกว่า Avast Secureline VPN
เอาล่ะ เตรียมทราบคำตอบ สำหรับคำถามของคุณได้เลย! นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดเกี่ยวกับ Avast VPN ที่เราจะอธิบายจากการวิเคราะห์ของเรา
- มีอะไรพิเศษไหม เกี่ยวกับ Avast VPN?
- บริการ Avast VPN ปลอดภัยแค่ไหน?
- บริการนี้ทำให้ อินเทอร์เน็ตช้างลงไหม?
- คุณควรเลือก Avast Secureline VPN ไหม?
ตอนท้ายของรีวิวนี้ เราจะเสนอรายละเอียดสำหรับ ราคาถูกที่สุด สำหรับ Avast Secureline ถ้าคุณตัดสินใจที่จะลองใช้ดู แต่ตอนนี้ เรามาเริ่มกันที่พื้นฐานกันก่อน –
ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ความเร็วและการปลดล็อค
ค่าบริการและทดลองใช้ฟรี
โบนัส: ส่วนลด 60% สำหรับ Avast VPN
ข้อดีและข้อด้วยของ Avast VPN
คุณควรใช้ Avast VPN ไหม?
รีวิวและพูดคุยเกี่ยวกับ Avast VPN
อะไรคือความแตกต่างของ Avast VPN?
บริการ VPN มีให้เลือกมากมายหลายสิบ ส่วนใหญ่เลยดูไม่เด่นมากนัก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของ Avast Secureline
- การทดลองใช้ได้ ฟรี 7 วัน ให้คุณลองใช้ Avast VPN โดยไม่ต้องระบุรายละเอียดการชำระเงิน
ระยะเวลาทดลองใช้ฟรีเคยเป็นเรื่องปกติของบริการ VPN ทั้งหลาย แต่ทุกวันนี้ เพราะการแข่งขันในตลาดสูงมาก ผู้ให้บริการส่วนใหญ่จึงไม่สามารถให้บริการนี้ได้แล้ว – ยกเว้น Avast
ทดลองใช้ Avast Secureline ฟรี ›
คุณสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมโดยคลิกลิงค์ด้านบน ไปต่อที่เว็บอย่างเป็นทางการ แล้วคลิกที่ปุ่ม “เริ่มทดลองใช้ฟรี” ที่ช่องขวาสุด
ข้อสำคัญ! อย่าลืมว่า คุณจะไม่สามารถใช้ส่วนลดได้ หากคุณตัดสินใจเลือกสมัครสมาชิกโปรแกรม Avast VPN ในภายหลัง – เราขอแนะนำให้ใช้รหัสเปิดใช้งานเพื่อป้องกันข้อจำกัดนี้ แล้วรับส่วนลดที่ดีที่สุด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
นอกจากจะให้ผู้ใช้งานได้ทดลองใช้ฟรีแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ Avast ยังเริ่มให้บริการโหมด VPN เฉพาะ ซึ่งอาจเป็นที่สนใจของกลุ่มผู้ใช้งาน VPN จำนวนมาก
- สมาร์ท VPN ปรับค่าความเร็วอินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติ ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องบริหารการเชื่อมต่อ VPN ด้วยตัวเอง
ในโหมดนี้ Avast Secureline จะระบุได้เองว่า การใช้งานเมื่อไหร่ที่ต้องใช้ VPN เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wi-Fi สาธารณะ หรือใช้งานธนาคารออนไลน์ แล้วจะทำให้คุณเชื่อมต่อได้อย่างปลอดภัย
ระบบยังจะเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดสำหรับสตรีมมิ่ง หรือดาวน์โหลดทอร์เรนต์ด้วย – ไม่ต้องตั้งค่าเองเลย 🙌
สุดท้าย หากการเชื่อมต่อ VPN ของคุณหยุดชะงักโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบสมาร์ท VPN จะระงับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณโดยอัตโนมัติทันที แล้วทำการเชื่อมต่ออีกครั้ง เมื่อคุณทำการเชื่อมต่ออย่างปลอดภัยอีกครั้ง
- กลุ่มบริษัท Avast ผู้ผลิต Avast Secureline VPN เป็นบริษัทใหญ่ และเป็นที่น่าเชื่อถือ ในฐานะผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้กว่า 30 ปี
นั่นหมายถึง จะมีการให้ความช่วยเหลือประสิทธิภาพสูง รับประกันการใช้งานอย่างไม่ติดขัด และไม่ยุ่งยาก หากมีการขอเงินคืน หรือยกเลิกบริการ
วิธีการทดสอบ คือ ลองเลือกบริการ VPN สักแห่ง แล้วลองหารูปสำนักงานใหญ่ของบริษัทนั้นให้เจอ… โดยส่วนใหญ่แล้ว แทบเป็นไปไม่ได้เลย – แต่ไม่ใช่สำหรับAvast
ไม่เหมือนกับผู้ให้บริการ VPN รายอื่น ซึ่งมักจำให้บริการผ่านการลงทะเบียนตามกฎหมายในพื้นที่เขตปกครองนอกประเทศ Avast เป็นบรรษัทข้ามชาติ ซึ่งให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของบริษัท จึงให้บริการดีสุดๆมากกว่าที่อื่น
พูดถึงตรงนี้แล้ว
ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
เมื่อคุณมีคำว่า “ปลอดภัย” ในชื่อของบริการ ต้องมีความหมายสำคัญบางอย่าง จริงไหม มาดูกันว่า Avast Secureline VPN ให้บริการได้สมชื่อไหม
- โปรแกรมนี้สร้างตามมาตรฐาน OpenVPN และ OpenSSL นั่นหมายความว่า ดีหรือไม่ดี? คำตอบที่คุณได้มักจะขึ้นอยู่กับว่า คุณถามใคร แต่คนที่ชื่นชอบโปรแกรมเปิด ก็จะบอกคุณว่า การใช้โปรโตคอลสาธารณะที่ตรวจสอบได้ ทำให้มั่นใจได้ว่า ไม่มีรหัสสร้างขึ้นมาเอง (“home-made”) แล้วแฝงเพิ่มไปในโปรแกรม VPN เพื่อทำอะไรเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวของคุณ
- Avast ใช้การเข้ารหัสแบบ 256-บิต AES ในการปกป้องการใช้งานของคุณให้ปลอดภัยจากการสอดแนม ส่วนนี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร – ผู้ให้บริการ VPN สมัยใหม่เกือบทั้งหมด รวมทั้งธนาคาร และผู้ให้บริการโปรแกรมอื่นๆ ต่างก็ใช้ระบบความปลอดภัยสูงสุดเวอร์ชัน (256-บิต) ของ AES cypher นี้ ว่ากันต่อได้เลย
- Secureline เสนอบริการ ป้องกัน DNS รั่ว เป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ เห็นการเชื่อมต่อเข้าออกของคุณ (ใช่ ปกติแล้ว เขาก็ทำอย่างนั้นตลอดนั่นแหละ) เราทำการตรวจสอบ หาว่า มีการรั่วของ DNS บนเซิร์ฟเวอร์ Avast หรือไม่ และผลการทดสอบยังไม่เคยเป็นลบแม้แต่ครั้งเดียว – แต่ก็อย่างที่ว่าแหละ ในส่วนนี้ก็เป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของบริการ VPN ที่จริงจังทั้งหลาย แต่ที่ผ่านมาก็ถือว่าดีนะ!
- แล้วเรื่อง การป้องกันข้อมูลของคุณ ในระดับเซิร์ฟเวอร์ล่ะ? ถ้าเราดูรายละเอียดนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Avast Secureline เราจะเห็นบทแถลง หลักการไร้การบันทึก (no-logs) นั่นหมายความว่า ไม่มีการบันทึกหมายเลข IP หรือข้อมูลการเชื่อมต่อใดๆ บนเซิร์ฟเวอร์ VPN
ข้อสุดท้าย อาจจะเป็นข้อสำคัญที่สุด กล่าวคือ –
– ต่อให้ Avast VPN ได้รับคำขอจากหน่วยงานราชการให้เปิดเผยข้อมูลที่มี บริษัทก็ไม่มีข้อมูลอะไรจะเปิดเผยได้ และแน่นอน ไม่มีข้อมูลที่ระบุตัวตนใคร ที่สามารถเชื่อมโยงถึงผู้ใช้งาน VPN แต่ละคนได้
กล่าวโดยสรุป Avast มีคุณสมบัติที่จำเป็นเมื่อกล่าวถึง ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ✔️ต่อไป เราจะดูที่คุณสมบัติสำคัญสำหรับบริการ VPN ทั้งหลาย
ความเร็วและการปลดล็อค
“คุณไม่ควรสังเกตได้ถ้า VPN นั้นดี” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว – นั่นหมายความว่า เครือข่ายส่วนตัวเสมือนที่มีประสิทธิภาพ จะให้บริการโดยความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุนใกล้เคียงระดับปกติมากที่สุด
(กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ เป็นที่ทราบกันดีว่าบริการ VPN ไม่สามารถทำให้การเชื่อมต่อของคุณ เร็วขึ้น กว่าปกติได้ แต่ไม่ควรทำให้เชื่อมต่อช้าลงจนคุณรู้สึกได้)
แล้ว Avast Securelineเร็วแค่ไหน?🐆
ในการเก็บข้อมูลตัวอย่างเป็นข้อมูลตัวแทน เราทำการทดสอบ ซ้ำๆ หลายครั้ง ใน แต่ละ ภูมิภาคที่ใช้งานได้ ทำการทดสอบซ้ำหลายครั้งตลอดทั้งวัน
เราใช้ Speedtest และ Fast.com ในการทดสอบความเร็ว แล้วคำนวณค่าเฉลี่ยผลลัพท์จากการวัดค่า 2-3 ครั้ง สำหรับแต่ละพื้นที่ ผลการทดสอบสรุปได้ ดังนี้
ทั่วทุกภูมิภาค Avast Secureline VPN ใช้งานได้ที่ความเร็วค่อนข้างดี โดยเฉลี่ย 35-40 Mb/วินาที ในการดาวน์โหลด โดยภูมิภาคที่ใช้งานมากที่สุด มีความเร็วโดยเฉลี่ยที่ ประมาณ 50 Mb/วินาที
เป็นไปตามปกติสำหรับบริการ VPN ผลการทดสอบของเราก็พบว่า ความเร็วจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเวลาที่ทดสอบในแต่ละวัน นี่เป็นเหตุผลที่จะเลือกใช้งานโหมดที่เรากล่าวถึงข้างต้น นั่นคือ โหมดสมาร์ท VPN ซึ่งจะทำการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เร็วที่สุดโดยอัตโนมัติขณะที่มีการใช้งาน
บริการสตรีมมิง เช่น Netflix จะถูก ปลดล็อค ในพื้นที่ใช้งานหลักทุกแห่ง – รวมทั้งสหรัฐอเมริกา แน่ล่ะ – ผลลัพท์เช่นนี้ ถือว่าดีเยี่ยมสำหรับบริการ VPN ทั้งหลาย
กล่าวถึงตรงนี้แล้ว เราทราบกันดีว่ามี เซิร์ฟเวอร์พิเศษ สำหรับการสตรีมมิง และทอร์เรนต์ (P2P) เพราะฉะนั้น ถ้าคุณเป็นแฟนหนังตัวจริง หรือใช้งาน P2P เป็นประจำ คุณใช้บริการนี้จะได้ผลลัพท์ที่ดีที่สุด
กล่าวโดยรวมแล้ว Avast Secureline VPN เสนอบริการที่ใกล้เคียงประสบการณ์ในอุดมคติมาก คุณจะไม่รู้สึกเลยด้วยซ้ำว่า ใช้งานผ่าน VPN – ที่ให้ความปลอดภัยกับคุณอย่างเงียบๆอยู่เบื้องหลัง
ข่าวดีก็คือ?
– คุณไม่ต้องเชื่อเรา
ราคาและทดลองใช้ฟรี
ตามที่เรากล่าวไปแล้วข้างต้น Avast Secureline เป็นหนึ่งในบริการ VPN เพียงไม่กี่รายที่ให้คุณ ทดลองใช้ฟรี
ไม่ต้องระบุรายละเอียดการชำระเงิน และคุณไม่จำเป็นต้องซื้อบริการเมื่อระยะเวลานั้นสิ้นสุดลง – ทดลองใช้แบบวิธีดั้งเดิม ไม่มีข้อผูกพันใดๆ ฟรี!
คลิกลิงค์ด้านล่างเพื่อไปที่ เว็บไซต์ Avast แล้วคลิกที่ตัวเลือกด้านขวาสุดเพื่อดาวน์โหลดโปรแกรม
ทดลองใช้ Avast Secureline ฟรี›
หากคุณต้องการใช้งาน VPN หลังจากการระยะเวลาการทดลองใช้สิ้นสุดลง คุณจะเลือกการเป็นสมาชิกและการเรียกเก็บเงินได้ 3 แบบ –
Avast ไม่ใช้วิธีเรียกเก็บเงินแบบที่เราคุ้นเคย 🔮 เช่น เสนอราคาสมาชิกรายเดือนที่ราคาสูงเป็น 5 เท่า เมื่อเทียบกับราคาสมาชิกรายปี (เพื่อให้คุณรู้สึกว่า ราคารายปีถูกกว่ามาก)…
แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ราคาสมาชิกมีแบบรายปี 2 ปี และ 3 ปี ระยะเวลายิ่งนาน ราคายิ่งต่ำลง สำหรับสมาชิกทุกแบบ คุณสามารถใช้ Avast VPN ได้บนอุปกรณ์ 5 เครื่อง
ตามสัญญา นี่คือส่วนลดที่เราทราบ
โบนัส: ส่วนลด 60% สำหรับ Avast VPN
ใช่ คุณจะเห็นส่วนลดที่หน้าราคาของ Secureline บางส่วน แต่คุณสามารถรับส่วนลดเพิ่มได้อีก…
…และไม่ต้องใช้คูปอง หรือรหัสโปรโมชัน – เพียงแค่ไปที่หน้าเว็บที่เสนอราคาพิเศษ แล้วทำการสั่งซื้อที่นั่น –
รับส่วนลด 60% สำหรับ Avast Secureline ›
หลังจากนั้น คุณสามารถใช้รหัสเปิดใช้งาน หรือแค่ลงชื่อเข้าใช้งานบัญชีของคุณ แล้วเพิ่มรายละเอียดของคุณในโปรแกรม
ง่ายมาก! 🤑
เอาล่ะ ก่อนที่เราจะปิดท้าย มาสรุปกันก่อนว่า เราพบอะไรบ้างในการทดสอบการใช้งาน Avast Secureline ของเรา
ข้อดีและข้อด้อยของ Avast VPN
- บริการนี้เป็นหนึ่งในบริการเครือข่ายส่วนตัวเสมือนจำนวนน้อยมาก ที่เสนอให้ทดลองใช้ฟรีจริงๆ (7 วัน ไม่ต้องระบุหมายเลขบัตร)
- โหมดสมาร์ท VPN เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติ เปิดปิดการเชื่อมต่อผ่าน VPN ตามคุณที่ต้องการจะใช้งานหรือไม่ตลอดเวลา
- การเชื่อมต่อทุกครั้ง มีการเข้ารหัสด้วยระบบที่ทันสมัย (AES-256) และมีระบบป้องกันข้อมูลรั่ว DNS
- Avast ดำเนินนโยบายไร้การบันทึก นั่นหมายความว่า ไม่มีการบันทึกหมายเลข IP ของคุณ หรือสถิติการใช้งานอินเทอร์เน็ต
- ความเร็วของการดาวน์โหลดโดยเฉลี่ยที่ 35-40 Mb/วินาที นั่นหมายความว่า Secureline ไม่น่าจะทำให้ความเร็วการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณลดลง
- กลุ่มบรรษัท Avast คือ หนึ่งในบริษัทด้านความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1988 นั่นหมายความว่า การบริการที่ไม่สะดุด การขอรับคืนเงิน หรือยกเลิกบริการ ทำได้อย่างง่ายดาย
- ขณะที่ Avast เสนอบริการผ่านเซิร์ฟเวอร์กว่า 700 แห่ง ในกว่า 30 ประเทศ ผู้ใช้งาน VPN ตัวยง อาจจะรู้สึกว่า บริการนี้ไม่เด่นอะไรมากนัก เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการบางราย
- กล่าวเพิ่มเติมก็คือ จำนวนเซิร์ฟเวอร์พิเศษสำหรับบริการสตรีมมิ่ง และ P2P ขณะนี้ยังมีไม่ค่อยเยอะ
- Avast VPN ตอนนี้ยังไม่มีบริการแอปพิเศษสำหรับเราเตอร์ ผู้ชื่นชอบระบบ Linux ยังต้อง มองหาบริการที่อื่น
คุณควรใช้บริการ Avast VPN ไหม?
ตอนนี้คุณทราบข้อมูลเกี่ยวกับ Secureline มากขึ้นละ ถึงเวลาแห่งการตัดสินแล้ว! ก็เหมือนเดิมแหละ เราจะตอบว่า “ใช่” หรือ “ไม่” ซะทีเดียวก็คงไม่ได้ (คุณหวังไว้หรือเปล่าว่าจะมีคำตอบนี้? 🙄 ขอโทษทีนะ!)
สิ่งที่เรา ทำ คือ เสนอคำแนะนำสำหรับความต้องการเฉพาะ และลักษณะการใช้งาน ตามการวิเคราะห์เชิงลึกของเรา
เริ่มที่ด้านลบกันก่อน โปรแกรม Avast Secureline อาจจะไม่เหมาะกับคุณ ถ้า
- คุณใช้งานแบบ นิรนามมือฉมัง และคุณจะเปิดเผยข้อมูลให้กับหน่วยงานที่ลงทะเบียนในพื้นที่นอกอาณาเขตเท่านั้น
- คุณเป็น ผู้ใช้งานกำลังสูง ผู้ที่ต้องการใช้งานได้สูงสุดสำหรับทุกตัวแปร และต้องการใช้งาน VPN ให้ได้ทุกอุปกรณ์ในทุกระบบ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ระบบลีนุกซ์ ไปจนถึง Amazon Fire
ในทางตรงกันข้าม คุณน่าจะลองใช้ Secureline ดู ถ้าข้อต่อไปนี้ถูกต้องสำหรับคุณ
- คุณชอบ อะไรง่ายๆ ราคาประหยัด และเชื่อถือได้สำหรับการใช้งาน VPN ที่บ้าน หรือธุรกิจขนาดเล็ก
- คุณชอบผลิตภัณฑ์ของบริษัทขนาดใหญ่ มั่นคง มีสาขาในหลายประเทศ และมีประสบการณ์ยาวนาน
- หรือ ถ้าคุณมีผลิตภัณฑ์อื่นๆของ Avast ใช้งานอยู่แล้ว ในกรณีนี้ การจัดการความปลอดภัยของซอฟท์แวร์จากที่เดียว ตัดสินใจแบบนี้ อาจจะช่วยคุณประหยัดเวลา
ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่า VPN นี้เหมาะสำหรับคุณหรือไม่ อย่าลืมวิธีที่จะทราบคำตอบอย่างไร้ความเสี่ยง:
ทดลองใช้ Avast VPN ไม่ต้องระบุเลขบัตรเครดิต›
นอกจากนั้นแล้ว คุณยังคงค้นหาภูมิปัญญาและประสบการณ์สังคมได้โดยถามคำถามที่ ช่องทางการพูดคุย ด้านล่าง!